แบล็คแจ็คเป็นอีกหนึ่งเกมเดิมพันที่ได้รับความนิยม แต่สงสัยกันไหมว่ามันมีจุดเริ่มต้นอย่างไร และมีการแข่งขันอย่างไร เราจะพาคุณดูไปพร้อมๆ กันกับบทความนี้
จุดกำเนิดแบล็คแจ็ค
สำหรับแบล็คแจ็คเป็นเกมการเดิมพันที่ได้รับความนิยมในยุโรปในศตวรรษที่ 17 ซึ่งมีจุดกำเนิดมาจากสองประเทศคือสเปนและฝรั่งเศส จากหลักฐานที่สามารถอ้างอิงได้โดยในภาษาสเปนสำหรับแบล็คแจ็คจะเรียกกันว่า Ventiuna ซึ่งการเล่นมีจุดมุ่งหมายของการเข้าถึง 21 คะแนนโดยไม่ต้อง busting ในส่วนของฉบับภาษาฝรั่งเศสเป็นที่รู้จักในชื่อ Vingt et Un โดยเกมนี้จะมีความแตกต่างไปจากแบบสเปน คือเจ้ามือจะได้รับอนุญาตให้เพิ่มเป็นสองเท่า หลังจากนั้นได้รับความนิยมอย่างมากในทวีปยุโรป จึงถูกเผยแพร่มายังเพื่อนบ้าน และหนึ่งในนั้นที่เป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ของแบล็คแจ็คคือช่วงเวลาที่ถูกเผยแพร่มายังประเทศสหรัฐอเมริกาในช่วงหลังการปฏิวัติฝรั่งเศส จากความนิยมของแบล็คแจ็คเริ่มจากบ่อนคาสิโนขนาดเล็กที่นำเข้ามาให้บริการจนสามารถเห็นโต๊ะการเล่นแบล็คแจ็คได้ทั่วไป ก่อนที่หลังจากนั้นบ่อนต่างๆ ในเมือง ลาสเวกัส ก่อนที่จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดเป็นการเดิมพันออนไลน์ และเป็นหนึ่งในสุดยอดเกมไพ่อันโด่งดังอย่างที่เราได้เห็นทุกวันนี้
การแข่งขันแบล็คแจ็ค
สิ่งแรกต้องเริ่มจากการเรียนรู้วิธีการเล่นเดิมพันในเกมนั้นๆ เพื่อให้ได้ทราบถึงข้อมูลว่าไพ่ในแต่ละใบมีค่าเท่าไหร่กันบ้าง มีรูปแบบการวางเดิมพันกี่แบบ และจะสามารถทราบถึงอัตราการจ่ายเงินเดิมพันได้อีกด้วย โดยแบล็คแจ็คนั้น ไพ่ A มีค่าเป็น 1 ส่วนถ้าเป็นไพ่ J Q K มีค่าเป็น 10 แต้ม อย่างไรก็ตามหากว่าไพ่ในมือของผู้เล่นมี J Q K อย่างละใบ ก็จะเรียกว่าแบล็คแจ็ค ซึ่งเป็นไพ่ใหญ่เหนือกว่า 21 นั่นเอง และจะเป็นผู้ชนะทันที
การเดิมพันระหว่างเกม
ขั้นตอนการเล่นเกมไพ่แบล็คแจ็คออนไลน์โดยหลักๆ แล้วจะต้องมีผู้เล่นจำนวน 2 คนขึ้นไป โดยการเล่นไพ่แบล็คแจ็คออนไลน์นั้นจะใช้ไพ่ทั้งหมด 6 ตลับในการเล่น 1 เกม ในส่วนของตัวผู้เล่นนั้นจะทำการวางเงินเดิมพันลงในช่องสี่เหลี่ยม และเมื่อเกมเริ่มต้นขึ้นผู้เล่นทั้งหมดจะเริ่มลงเดิมพัน และภายหลังที่ทำการลงเดิมพันเสร็จแล้วเจ้ามือจะทำการแจกไพ่คนละสองใบให้ผู้เล่นทุกคน โดยไพ่สองใบของผู้เล่นนั้นจะต้องเปิดอยู่ ในส่วนของเจ้ามือนั้นไพ่ใบแรกต้องเปิดอยู่ โดยที่ไพ่ใบที่สองนั้นจะต้องทำการปิดไว้ จากนั้นก็ให้ผู้เล่นจั่วไพ่จนกระทั่งถึงผู้เล่นทุกคนเรียกหยุดไพ่ขณะเดียวกันในส่วนของเจ้ามือถึงจะได้จั่วไพ่ และหลังจากที่เจ้ามือเรียกหยุดไพ่ ผู้เล่นทุกคนต้องเทียบไพ่กับเจ้ามือ ซึ่งไพ่ J, Q, K และไพ่ 10 นั้นจะนับค่าเป็น 10 ส่วนไพ่ A นั้นจะนับเป็น 1 หรือ 11 โดยที่ไพ่ใบอื่นจะนับตามตัวเลขที่ปรากฏบนหน้าไพ่ต่อไป อย่างไรก็ตามสิ่งที่ควรรู้คือ เจ้ามือจะมีกฎของการเล่นแบล็คแจ็คอยู่นั่นคือสามารถที่จะเรียกไพ่ให้ถึง 17 แต้มเป็นอย่างต่ำได้ แต่ถ้าผู้เล่นได้แต้มตั้งแต่ 16 ลงมาถือว่าแพ้เจ้ามือทันที แต่ในขณะเดียวกันหากผู้เล่นพอใจที่ 16 ก็สามารถหยุดได้ โดยรอลุ้นให้เจ้ามือได้แต้มเกิน 21 ผู้เล่นก็จะเป็นฝ่ายชนะทันที
ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องอาศัยประสบการณ์ของตัวผู้เล่นเองด้วย
เพื่ออ่านเกมให้ออกว่าควรเลือกจะเรียกหรือหยุดหรือแยกไพ่ แต่กว่าจะเล่นได้อย่างช่ำชองก็อาจจะต้องใช้เวลาไปบ้าง แต่เชื่อได้เลยว่ามันจะทำให้คุณได้สนุกไปกับการเดิมพันที่ Royal Online v2 มากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน
Comments